— The relationship
between nature connectedness
and happiness
ระหว่างหน้าฝนของเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
เราสองคนเดินทางไปที่เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
ทริปที่ช่วยเปิดประสบการณ์ และการตื่นรู้จากการเชื่อมต่อร่างกายและจิตใจของตัวเราเองเข้ากับธรรมชาติ อีกครั้งที่ธรรมชาติหยิบยื่นบทเรียนกับให้เรามากมาย โอบรับเราให้รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับโลกใบนี้อีกครั้ง
ครั้งนี้แตกต่างกว่าครั้งก่อนที่เราเคยได้มา
ตรงที่เราตั้งใจไปเพื่อเรียนรู้ เพื่อสร้างความเข้าใจในระบบป่า
วัฎจักรของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ต้นไม้ สัตว์ป่า
ในโลกใบนี้มีสิ่งเล็กๆที่เรียกว่าเชื้อรา
อาณาจักรที่เป็นหน่วยที่เล็กที่สุดหน่วยนึงบนโลก
เชื้อราที่เรารู้จักกัน ก็อย่างเช่น เห็ด ยีสต์ เป็นต้น
เหล่า Fungi เหล่านี้คอยทำหน้าเป็นเหมือนตัวกลางของระบบนิเวศ ทั้งย่อยสลาย ให้กำเนิด เซลล์ของเชื้อราจะช่วยจัดระเบียบ และเชื่อมต่อกับต้นไม้ทุกต้นในป่า ราวกับเป็นโทรสารเครื่อข่ายใหญ่ และตอนนั้นเองที่เราได้รู้ว่าทุกสิ่งบนผืนป่านั้น ต่างเชื่อมต่อกันอย่างมีระเบียบและแบบแผน
เชื้อราและต้นไม้อยู่ด้วยกันอย่างเกื้อกูล
เมื่อเปรียบเทียบกับโลกที่เราอาศัยอยู่
ในบางครั้ง การเป็นศูนย์กลางของทุกอย่าง อาจไม่ถูกต้องมากที่สุด การได้ลองฝึกผ่อนลมหายใจให้เป็นไปตามจังหวะชีวิตของผู้อื่น เชื่อมต่อกับผู้คนตามจิตใต้สำนึกโดยไม่คาดหวังกับสิ่งใด
ใช้ประสาทสัมผัสทั้งหมดที่มีและปล่อยให้ความสงบของธรรมชาติแทรกซึมเข้ามา และเมื่อนั้นเราจะได้พบว่าธรรมชาติคือครูที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
การนำบทเรียนจากธรรมชาติมาใช้ในชีวิตจริง ทำให้เราปรับสมดุลของชีวิตและจิตใจได้ดีขึ้น ทุกอย่างค่อยๆ ออกผลและงดงาม
วันนี้เป็นการเอาภาพจากทริปมาฝากกันก่อน
ส่วนพรุ่งนี้เรามีวีดีโอที่เก็บบันทึกทุกความรู้สึกที่เกิดขึ้นมาให้ดูกันได้ชัดขึ้น และหากใครมีเวลา ก็อย่าลืมมองหาบทเรียนจากธรรมชาติดูกันนะ
เชียงดาว
Love,
Mars
#ABOVETHEMARS